บาคาร่าออนไลน์ CP All ออกแถลงการณ์ เดินหน้าฟ้องหมิ่นประมาท กลุ่มบุคคลที่ นำเข้าข้อมูลเท็จ บิดเบือนความจริงให้บริษัทเสียหาย และทำให้เสื่อมค่า เครื่องหมายการทาง 7-eleven เช้าวันนี้ บริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน) เจ้าของร้านสะดวกซื้อ 7-eleven ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง แถลงการณ์ บริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน) เรื่อง การดําเนินการทางกฎหมายในกรณีการนําเข้าและเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ข้อมูลที่บิดเบือนจากความจริง ข้อความหมิ่นประมาทบริษัท ผ่านระบบคอมพิวเตอร์และสื่อสังคมออนไลน์
ตามที่ปรากฏว่ามีบุคคลกลุ่มหนึ่งได้นําเข้าและเผยแพร่ข้อมูลเท็จ
ข้อมูลที่บิดเบือนจากความจริง ข้อความ หมิ่นประมาท เกี่ยวกับบริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน) (“บริษัท”) ผ่านระบบคอมพิวเตอร์และสื่อสังคมออนไลน์ และ ยังปรากฏเพิ่มเติมว่า มีบุคคลบางกลุ่มได้ปลอม เลียนแบบ เผยแพร่ รวมถึงทําให้เสื่อมค่า (Dilution) ซึ่งชื่อทางการค้า เครื่องหมายการค้า 7-Eleven เครื่องหมายบริการของบริษัท และบริษัทในกลุ่ม ซึ่งการกระทําของบุคคลดังกล่าว ได้ก่อให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียงของบริษัท และสร้างความสับสนและเข้าใจผิดต่อบริษัทเป็นอย่างมาก
บริษัทในฐานะองค์กรเอกชน และบริษัทมหาชน ได้ประกอบธุรกิจโดยสุจริต และยึดหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยคํานึงถึงประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน สังคมและชุมชน รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ประกอบการรายใหญ่ และรายย่อย เป็นสําคัญ บริษัทยินดีเป็นอย่างยิ่งและพร้อมรับการติชมในการดําเนินงานของบริษัทในทางสุจริตและอยู่ บนพื้นฐานของความจริง ซึ่งเป็นเรื่องที่บุคคลทั่วไปมีสิทธิในการกระทําได้
อย่างไรก็ตาม หากการติชมหรือวิพากษ์วิจารณ์การประกอบธุรกิจของบริษัท อยู่บนพื้นฐานของข้อมูลที่เป็น เท็จ ข้อมูลที่บิดเบือนจากข้อเท็จจริงหรือข้อความหมิ่นประมาท ประกอบกับการปลอม เลียนแบบ เผยแพร่ รวมถึงทํา ให้เสื่อมค่า (Dilution) ซึ่งชื่อทางการค้า เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการของบริษัท อันส่งผลให้บริษัทได้รับ ความเสียหายทางชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง และถูกทําให้เสื่อมเสียซึ่งความไว้วางใจต่อสาธารณะ
บริษัทก็มีความ จําเป็นในการดําเนินการทางกฎหมายต่อบุคคลที่นําเข้าและเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ข้อมูลที่บิดเบือนจากความจริง ข้อความ หมิ่นประมาท และใช้ชื่อทางการค้า เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการของบริษัท โดยไม่ได้รับความยินยอมจาก บริษัทต่อไป ทั้งนี้ การดําเนินการทางกฎหมายของบริษัทเป็นไปเพื่อปกป้องสิทธิและประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ของบริษัทเท่านั้น
กทม. เผย 6 กลุ่มอาชีพเสี่ยง ติดเชื้อโควิด-19
กรุงเทพมหานคร จัดอันดับ 6 กลุ่มอาชีพเสี่ยง ติดเชื้อโควิด-19 พร้อมขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติมาตรการ D-M-H-T-T-A เคร่งครัด
เพจ กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ข้อมูล วันที่ 7 ก.ค.64 ระบุ จากข้อมูลการสอบสวนโรคผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 โดยสำนักอนามัย กทม. ระหว่างวันที่ 1-30 มิ.ย.64 พบว่า กลุ่มอาชีพของผู้ป่วยโควิด-19 ที่พบมากที่สุดคือ ค้าขาย พนักงานบริษัท ก่อสร้าง พนักงานโรงงาน รับจ้าง นักเรียน/นักศึกษา
ทั้งนี้ กลุ่มผู้ป่วยวัยทำงาน จะมีโอกาสติดเชื้อจากที่ทำงาน หรือจากสถานที่ต่างๆ และเมื่อกลับบ้านโดยไม่รู้ตัวว่าติดเชื้อ ก็จะนำเชื้อมาแพร่ให้กับคนในครอบครัวและในชุมชนใกล้บ้านได้มากกว่าคนวัยอื่น
กรุงเทพมหานคร จึงได้เร่งรณรงค์สร้างความรู้ความเข้าใจและขอความร่วมมือประชาชนในการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันสุขอนามัยส่วนบุคคล (D-M-H-T-T-A) อย่างเคร่งครัด
เน้นย้ำให้ครัวเรือนที่มีสมาชิก “วัยทำงาน” ซึ่งต้องออกไปทำงานนอกบ้านเพิ่มความระมัดระวัง หมั่นสังเกตตนเอง หากมีไข้ หรืออาการทางเดินหายใจ ควรงดการใกล้ชิดกับผู้สูงอายุ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีและรักษาระยะห่างกับผู้สูงอายุ เมื่อกลับจากทำงาน หรือนอกที่พักอาศัย ควรอาบน้ำ สระผม เปลี่ยนเสื้อผ้าทันที
ทำความสะอาดสิ่งของต่าง ๆ ที่นำติดตัวออกไปด้วย เช่น กระเป๋า รองเท้า และกุญแจ ก่อนเก็บเข้าที่ เนื่องจากเชื้อโรคอาจเกาะอยู่บนพื้นผิวสิ่งของต่าง ๆ ได้
รวมทั้งทำความสะอาดโทรศัพท์มือถือด้วยแอลกอฮอล์ก่อนที่จะใช้งาน และสวมใส่หน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าอย่างถูกวิธีตลอดเวลา เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
ขอความร่วมมือจากประชนทุกภาคส่วน ในการควบคุมป้องกันโรค เคร่งครัดในสุขอนามัยส่วนบุคคล ไม่ร่วมวงสังสรรค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่สังสรรค์กับบุคคลที่ซึ่งมาจากจังหวัดที่มีการระบาดของโควิด-19 เคร่งครัดในมาตรการตามหลักเกณฑ์ กรณีมีการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มคนจำนวนมาก
ในขณะเดียวกัน วันนี้มีผู้ป่วยระลอกใหม่ เมษายน 2564 รักษาหายกลับบ้านแล้ว จำนวน 8 ราย
จังหวัดชลบุรีจะยังคงดำเนินการค้นหาผู้สัมผัส และค้นหาเชิงรุกอย่างเข้มข้น เพื่อนำมาตรวจหาเชื้อโควิด-19 และนำมารักษาไม่ให้แพร่ระบาดต่อไป ขอความร่วมมือบุคคลที่ไปเที่ยวสถานบริการตามประกาศ หรือ สถานบริการใน กทม ปริมณฑล เข้ารับการตรวจหาเชื้อ เพื่อเข้ารับการรักษา ไม่ให้แพร่เชื้อต่อไป
ล่าสุดนี้กระทรวงมหาดไทย ได้เผยแพร่จังหวัดที่มีการบังคับใช้กฎให้สวมใส่ หน้ากากอนามัย เมื่ออยู่นอกเคหสถาน ที่หากฝ่าฝืนจะได้รับ โทษปรับ โดยมีจำนวน 48 จังหวัดด้วยกัน บาคาร่าออนไลน์